รีวิว 21 Jump Street คู่ป่วนล่ามัธยมแสบ (2012)

21 Jump Street คู่ป่วนล่ามัธยมแสบ (2012)

หนังประเทศ : สหรัฐอเมริกา

เรื่องย่อ

21 Jump Street คือภาพยนตร์แอ็กชัน–คอมเมดี้สุดฮา ที่รีเมคจากซีรีส์ดังในยุค 1980 โดยมี Jonah Hill และ Channing Tatum รับบทนำ เล่าเรื่องของสองตำรวจหนุ่มจอมเฟอะฟะ “ชมิดท์” (Jonah Hill) และ “เจนโก้” (Channing Tatum) ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมแต่ต่างกันสุดขั้ว — คนหนึ่งเนิร์ดไม่เอาไหน อีกคนเป็นนักกีฬาหล่อฮอต

หลังจากเข้ากรมตำรวจ ทั้งคู่จับมือเป็นคู่หู แต่เพราะความซื่อและโชคร้าย พวกเขาทำงานพลาดจนถูกย้ายไปอยู่หน่วยลับ “21 Jump Street” ที่มีหน้าที่ปลอมตัวเป็นนักเรียนมัธยมเพื่อสืบจับแก๊งค้ายาในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง

แต่เมื่อทั้งคู่กลับไปใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอีกครั้ง พวกเขาพบว่าโลกของวัยรุ่นเปลี่ยนไปมาก — คนเนิร์ดกลายเป็นฮีโร่ ส่วนคนเจ๋งในอดีตกลายเป็นคนเชย ทั้งคู่จึงต้องรับมือกับความสับสน วัฒนธรรมยุคใหม่ และภารกิจที่ทั้งฮาและระเบิดความมันแบบไม่หยุด!

บทความรีวิว

21 Jump Street เป็นหนังตำรวจสายลับที่ไม่เน้นความเข้มข้นของคดี แต่เน้นความบันเทิงและมิตรภาพระหว่างเพื่อน หนังผสมระหว่างคอมเมดี้แนว “บัดดี้คอป” (ตำรวจคู่หู) กับเสียดสีวัฒนธรรมวัยรุ่นได้อย่างฉลาดและสนุก มีทั้งมุกตลกแรงๆ เสียดสีสังคม และฉากบู๊ที่ทำออกมาอย่างตั้งใจ

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือเคมีระหว่าง Jonah Hill และ Channing Tatum ที่แตกต่างกันสุดขั้วแต่เข้ากันได้อย่างลงตัว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาอย่างน่ารักจากการทะเลาะกันกลายเป็นเพื่อนแท้ที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อกันและกัน

นอกจากนี้ หนังยังแทรกประเด็นเรื่อง “การกลับไปแก้ไขอดีต” ได้อย่างมีอารมณ์ ชมิดท์ที่เคยโดนแกล้งในโรงเรียน ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ส่วนเจนโก้ก็ได้เรียนรู้ว่าความเท่ไม่ได้สำคัญเท่าความจริงใจ ทั้งหมดถูกเล่าอย่างตลกแต่มีสาระอย่างน่าประทับใจ

สปอยล์เต็ม

ชมิดท์และเจนโก้ปลอมตัวเป็นนักเรียนเพื่อหาตัวผู้ค้ายาในโรงเรียนชื่อ “HFS” ที่กำลังระบาด พวกเขาสืบจนเจอหัวหน้าแก๊งคือ “เอริก” (Dave Franco) นักเรียนหนุ่มสุดเท่ แต่ปัญหาคือชมิดท์ดันไปหลงรักสาวในโรงเรียน และเจนโก้กลับสนิทกับพวกเนิร์ดแทนกลุ่มนักกีฬาที่เขาเคยอยู่ ทำให้ทุกอย่างเริ่มยุ่งเหยิง

เมื่อภารกิจใกล้แตก ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับเอริกและพวกค้ายาในการไล่ล่าที่เต็มไปด้วยความวายป่วง ในที่สุดพวกเขาก็สามารถจับคนร้ายได้สำเร็จ แต่ก็ทำลายโรงเรียนยับเยินจนถูกหัวหน้าดุยับ ก่อนจะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจใหม่ใน “วิทยาลัย” ซึ่งกลายเป็นภาคต่อในชื่อ 22 Jump Street (2014)

บทวิเคราะห์

21 Jump Street สะท้อนเรื่องการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของคนได้อย่างแนบเนียนผ่านโครงเรื่องตลก ตัวละครทั้งสองเป็นตัวแทนของอดีตและปัจจุบัน ที่ต้องเรียนรู้จะยอมรับตัวเองในแบบที่เป็น หนังชี้ให้เห็นว่าการเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่การทิ้งอดีต แต่คือการเรียนรู้จากมันเพื่อเติบโต

อีกทั้งยังเสียดสีวงการตำรวจและระบบโรงเรียนได้อย่างแสบสัน ทั้งเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เต็มไปด้วยขั้นตอนงี่เง่า ไปจนถึงโลกวัยรุ่นที่หลงใหลภาพลักษณ์มากกว่าความจริง หนังจึงทั้งฮาและมีความหมายในเวลาเดียวกัน

เทคนิคการสร้างและงานภาพ

ผู้กำกับ Phil Lord และ Christopher Miller (จาก The Lego Movie) ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยสไตล์รวดเร็ว มีการตัดต่อที่ทันสมัยและจังหวะมุกที่แม่นยำ ฉากแอ็กชันอย่างการไล่ล่าด้วยรถยนต์และการยิงต่อสู้ก็ทำได้อย่างมันส์ในแบบ “จริงจังแต่ขำ” เสียงประกอบแนวป็อปและฮิปฮอปเข้ากับบรรยากาศวัยรุ่นยุคใหม่ได้อย่างดี

ด้านงานภาพและโทนสีใช้โทนสว่างและสนุก ทำให้หนังดูสดใหม่และดูเพลินจนจบโดยไม่รู้ตัว เป็นหนึ่งในหนังคอมเมดี้ที่มีการสร้างอย่างมืออาชีพและมีสไตล์เฉพาะตัวสูงมาก

บทวิจารณ์

21 Jump Street ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลกในฐานะ “หนังรีเมคที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง” เพราะสามารถนำต้นฉบับซีรีส์ยุค 80 มาปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบันได้อย่างมีชีวิตชีวา หนังทำรายได้ทั่วโลกกว่า 200 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างเพียง 42 ล้าน และยังได้รับคำชมเรื่องเคมีของคู่พระเอกและบทตลกที่ฉลาด ไม่หยาบโลนเกินพอดี

นี่คือหนังที่ทั้งมันส์ ตลก และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ทำให้ 21 Jump Street กลายเป็นแฟรนไชส์คู่หูตำรวจสุดป่วนที่แฟนหนังทั่วโลกรักจนถึงทุกวันนี้

ตัวอย่างภาพยนตร์

 

Author: jenny88

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *